การผสมผสานศิลปะดั้งเดิมเข้ากับผลงานสร้างสรรค์ร่วมสมัย นี่คือมนตร์เสน่ห์ของงานปักประดับจากอาเตลิเยร์ Montex ลวดลายอันประณีต ทันสมัย และล้ำค่าซึ่งมาเติมเต็มคอลเลคชั่นของ CHANEL ให้ยิ่งงดงามเหล่านี้ล้วนถูกรังสรรค์จากการปักประดับด้วยมือ การถักโครเชแบบลูเนวิลล์หรือด้วยเครื่องปักคอร์เนลี่ ซึ่งเป็นเครื่องปักที่มีอายุกว่าศตวรรษ และยังคงควบคุมด้วยมือมนุษย์ Montex เข้าร่วมเป็นหนึ่งในสตูดิโองานหัตถศิลป์ของ CHANEL ในปี 2011

ท่วงท่าที่แม่นยำ ฝีมืออันประณีต สัดส่วนที่พอดิบพอดี ทำให้ทุกชิ้นงานสมบูรณ์แบบ เทคนิคอันช่ำชองของ Robert Goossen พัฒนาขึ้นจากการผสานศาสตร์ของงานประติมากรรมเข้ากับการทำทอง ตั้งแต่ปี 1954 ในการรังสรรค์เครื่องประดับสไตล์ไบแซนไทน์ให้กับ Gabrielle Chanel และในผลงานชิ้นต่อมาเมื่อเขาออกแบบเฟอร์นิเจอร์บางส่วนสำหรับอพาร์ตเมนต์ของเธอ ณ อพาร์ตเมนต์เลขที่ 31 ถนนกัมบง สตูดิโอ Goossens สืบสานมรดกของผู้ก่อตั้งและยังคงนำจินตนาการของ CHANEL มารังสรรค์ให้เป็นจริงเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ Goossens เข้าร่วมเป็นหนึ่งในสตูดิโองานหัตถศิลป์ของ CHANEL ในปี 2005

Lemarié ก่อตั้งขึ้นในปี 1880 ด้วยทักษะความชำนาญในงานฝีมือชั้นสูงอันเป็นประวัติศาสตร์ของการประดิษฐ์ขนนก ช่างฝีมือของสตูดิโอแห่งนี้ประกอบกลีบดอกคามิลเลียของ CHANEL ด้วยมือทีละกลีบมาตั้งแต่ปี 1960 ในห้องเวิร์คช็อปที่ปราศจากลมโกรก ณ le19M ขนนกจำนวนมากได้รับคัดเลือกทีละชิ้น ก่อนจะนำไปหวี ดัด หรือทำให้เรียบ ติดกาว หรือแม้กระทั่งถัก Lemarié เป็นพาร์ทเนอร์ที่มีความสำคัญยิ่งสำหรับคอลเลคชั่นต่างๆ ของ CHANEL และได้รวบรวมทักษะความชำนาญพิเศษที่หายากเอาไว้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ Lemarié ยังเชี่ยวชาญในงานตัดเย็บระดับกูตูร์ การจับจีบ และการตกแต่งสิ่งทอ สำหรับสร้างสรรค์ชิ้นงานพิเศษ อาทิ งานประดับ ระบาย สม็อค และพลีท Lemarié ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในสตูดิโองานหัตถศิลป์ด้านแฟชั่นของ CHANEL ในปี 1996

ตำนานแห่งการสร้างสรรค์ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของช่างฝีมือระดับกูตูร์กับดีไซน์และลวดลายงานปักอันหรูหราจาก Lesage ตั้งแต่ปี 1998 เป็นต้นมาที่สตูดิโอแห่งนี้ได้ออกแบบผ้าทวีดอันเป็นที่รักของ CHANEL ด้วยการผสมผสานเส้นด้ายขนสัตว์เข้ากับวัสดุแปลกใหม่ Lesage เป็นพาร์ทเนอร์ของ CHANEL มาตั้งแต่ปี 1983 และเข้าร่วมกับสตูดิโองานหัตถศิลป์มาตั้งแต่ปี 2002 โดย Lesage รวบรวมอาเตอลิเยร์และตัวอย่างผลงานอันเป็นเอกลักษณ์ไว้ที่ le19M และจัดให้เป็นโรงเรียนสอนตัดเย็บเพื่อส่งต่อเคล็ดลับในการรังสรรค์งานฝีมือชั้นสูงสู่ชนรุ่นหลัง

ตั้งแต่ขั้นตอนการแกะสลักแบบไปจนถึงการเย็บส่วนบนติดกับพื้นรองเท้า รองเท้าที่รังสรรค์โดยสตูดิโอ Massaro เป็นการทำขึ้นด้วยมือทั้งหมดเพื่อตามหาความสง่างามและความสบายในการสวมใส่อย่างไม่เคยหยุดนิ่ง ความร่วมมือระหว่าง CHANEL กับ Massaro เริ่มต้นขึ้นในปี 1975 ด้วยรองเท้าทูโทนอันเป็นเอกลักษณ์ของ Gabrielle Chanel และดำเนินต่อเนื่องมาตั้งแต่นั้น จากโชว์หนึ่งไปสู่อีกโชว์ Massaro ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในสตูดิโองานหัตถศิลป์ของ CHANEL ในปี 2002

Maison Michel สืบสานทักษะในงานฝีมือชั้นสูงซึ่งเริ่มต้นขึ้นในปารีสตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 จวบจนปัจจุบันยังคงรักษาเคล็ดลับในการทำหมวกและสืบทอดต่อกันมา ณ อาเตอลิเยร์ที่ le19M ไม่ว่าจะเป็นหมวกแก๊ปและหมวกปีกกว้างต่างได้รับการรังสรรค์ขึ้นด้วยมืออย่างประณีตบรรจงโดยใช้บล็อกไม้ไลม์วู้ด 3,000 ชิ้น ก่อนจะนำไปตกแต่งด้วยแถบเปีย ดอกไม้ ขนนก และเครื่องประดับอื่นๆ โดยช่างทำหมวกของ Maison Michel เข้าร่วมกับสตูดิโองานหัตถศิลป์ของ CHANEL ในปี 1997 โดยหมวกทรงโบตเตอร์ ผ้าคลุมหน้า หมวกแก๊ป และหมวกเบเรต์ของสตูดิโอแห่งนี้ ต่างได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับเอกลักษณ์ของ CHANEL และกลายเป็นแอคเซสเซอรี่ชิ้นสำคัญสำหรับทุกคอลเลคชั่น