RETROGRADE MYSTERIEUSE
J12 RETROGRADE
MYSTERIEUSE

1 ของ 2
วิดีโอที่เหมือนกัน
- การปรับเวลา
- การไขลานนาฬิกา
การดูแลรักษานาฬิกาของคุณ
กลไก
กลไกแบบไขลานด้วยมือ
กำลังสำรอง
10 วัน
คุณควรนำนาฬิกาเข้ารับบริการตรวจเช็คบ่อยเพียงใด
ตรวจสอบประสิทธิภาพในการกันน้ำทุกๆ 2 ปี (หรือเป็นประจำทุกปี หากโดนน้ำบ่อย)
เข้ารับบริการตรวจเช็คเป็นประจำทุก 4-5 ปี
ค่าการกันน้ำระบุระดับความลึกของน้ำที่ระบบกลไกได้รับการปกป้องจากฝุ่น ความชื้น และความเสียหายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อตัวเรือนจมอยู่ใต้น้ำ ทั้งนี้ซีลกันน้ำยังเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้นาฬิกากันน้ำได้ และเพื่อให้นาฬิกามีประสิทธิภาพในการกันน้ำอย่างต่อเนื่องยาวนาน เราขอแนะนำให้เปลี่ยนซีลกันน้ำทุก 2 ปี หลังการใช้งานครั้งแรก และควรนำนาฬิกาไปให้ผู้เชี่ยวชาญของเราทดสอบการกันน้ำทุกปีในกรณีที่นาฬิกาของคุณสัมผัสกับน้ำทะเลหรือน้ำในสระว่ายน้ำเป็นเวลานาน ไม่ควรปรับเม็ดมะยมขณะอยู่ใต้น้ำเพราะน้ำอาจรั่วซึมเข้าไปในตัวเรือนได้ ควรถอดนาฬิกาของคุณก่อนอาบน้ำและก่อนเข้าห้องซาวน่า เนื่องจากความร้อน สบู่ และไอน้ำอาจทำให้ซีลกันน้ำเสื่อมสภาพก่อนกำหนด
หากมีละอองน้ำเกาะอยู่ใต้หน้าปัดคริสตัล แสดงว่าน้ำซึมเข้าไปในตัวเรือนแล้ว ควรนำนาฬิกาไปตรวจเช็คสภาพโดยเร็วที่สุด
เพื่อให้นาฬิกาความเที่ยงตรงและน่าเชื่อถือ ไม่ควรสวมนาฬิกานี้ขณะเล่นกีฬาที่อาจเกิดแรงกระแทกสูง เช่น เทนนิส กอล์ฟ และขี่ม้า นอกจากนี้ ควรอยู่ห่างจากวัตถุที่มีแรงดึงดูดจากแม่เหล็กสูง เช่น สมาร์ทโฟน อุปกรณ์คอมพิวเตอร์แท็บเล็ต เตาแม่เหล็กไฟฟ้า ลำโพง จอโทรทัศน์ และเครื่องตรวจจับเพื่อความปลอดภัยตามสนามบิน อย่างน้อย 10 ซม. สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบจากสนามแม่เหล็ก โปรดอ่านในส่วน คำแนะนำของผู้ผลิตนาฬิกา
นาฬิกามาพร้อมกับระบบกลไกที่ต้องไขลานด้วยมือเพื่อขันลานที่ทำหน้าที่สั่งการระบบกลไกให้แน่น โดยหมุนเม็ดมะยมตามเข็มนาฬิกาจนกว่าจะสุด ซึ่งหมายความว่ากลไกได้รับการไขลานแล้วโดยสมบูรณ์ (เต็ม 25 รอบของเม็ดมะยมโดยประมาณ)
นาฬิกามีกำลังสำรอง 237 ชั่วโมง (10 วัน) ซึ่งต้องทำการขึ้นลานด้วยมือเมื่อกำลังสำรองนั้นหมดไป ควรไขลานระบบกลไกเป็นประจำทุกวัน (เต็ม 12 รอบของเม็ดมะยมโดยประมาณ) เพื่อให้นาฬิกาเที่ยงตรงอยู่เสมอ
ก่อนนำสายนาฬิกาไปตรวจเช็คสภาพ ควรตรวจดูก่อนว่าได้ขันเกลียวหรือกดเม็ดมะยมเข้ากับตัวเรือนแล้วอย่างแน่นหนา
ทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ แล้วล้างออกให้สะอาด ใช้ผ้านุ่มเช็ดให้แห้ง
นาฬิกาข้อมือเป็นระบบกลไกที่ทำงานตลอดเวลา ดังนั้น เพื่อรักษาความเที่ยงตรง และยืดอายุการใช้งาน ผู้ใช้จึงควรนำนาฬิกาเข้ารับบริการตรวจเช็คเป็นประจำ จากศูนย์บริการที่ผ่านการรับรอง ซึ่งมีเครื่องมือและอะไหล่พร้อมให้บริการ ในที่นี้ เฉพาะผู้ผลิตนาฬิกาของ CHANEL เท่านั้น ที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการว่า มีคุณสมบัติเหมาะสมในการซ่อมแซมและให้บริการนาฬิกาของคุณได้
ระยะเวลาที่แนะนำในการตรวจเช็คสภาพนาฬิกา:
ทุกๆ 2 ปี: บริการด้านการบำรุงรักษา (รวมขั้นตอนต่อไปนี้):
- ถอดประกอบนาฬิกา
- ตรวจสอบกลไก
- เปลี่ยนถ่าน (นาฬิการะบบควอตซ์) หรือปรับเทียบกลไก (นาฬิการะบบอัตโนมัติ)
- ถอดประกอบและทำความสะอาดนาฬิกาด้วยคลื่นอัลตราซาวด์
- เปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสียหาย
- ประกอบนาฬิกากลับเข้าที่และเปลี่ยนซีลกันน้ำ
- เปลี่ยนแท่นยึดและน็อต หากจำเป็น
- ทดสอบประสิทธิภาพในการกันน้ำ
- ตรวจสอบสภาพของสายและตัวล็อค
- ติดตามตรวจสอบการทำงานเป็นเวลา 48 ชั่วโมงสำหรับนาฬิการะบบควอตซ์, 72 ชั่วโมงสำหรับนาฬิการะบบอัตโนมัติ และ 96 ชั่วโมงสำหรับนาฬิการะบบอัตโนมัติรุ่นโครโนกราฟ
ทุกๆ 4-5 ปี: บริการเต็มรูปแบบ (รวมขั้นตอนต่อไปนี้):
- ถอดประกอบนาฬิกา
- กลไกระบบอัตโนมัติ: ถอดประกอบ ทำความสะอาด ไขลาน และปรับเทียบกลไก
- กลไกแบบควอตซ์: เปลี่ยนกลไกและแบตเตอรี่
- ถอดประกอบนาฬิกา เปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสียหาย
- ขัดชิ้นส่วนที่เป็นทองคำและสตีล
- ทำความสะอาดส่วนประกอบต่างๆ ด้วยคลื่นอัลตร้าซาวด์
- ประกอบนาฬิกากลับเข้าที่และเปลี่ยนซีลกันน้ำ
- เปลี่ยนแท่นยึดและน็อต หากจำเป็น
- ทดสอบประสิทธิภาพในการกันน้ำ
- ตรวจสอบสภาพของสายและตัวล็อค
- ติดตามตรวจสอบการทำงานเป็นเวลา 48 ชั่วโมงสำหรับนาฬิการะบบควอตซ์, 72 ชั่วโมงสำหรับนาฬิการะบบอัตโนมัติ และ 96 ชั่วโมงสำหรับนาฬิการะบบอัตโนมัติรุ่นโครโนกราฟ
*ข้อมูลเกี่ยวกับราคา ดูเพิ่มเติม