ปี 2000 การรังสรรค์นาฬิกา J12

การรังสรรค์นาฬิกา J12 รุ่นไอคอนิค นาฬิกาสไตล์สปอร์ตเรือนแรกของ CHANEL ในตัวเรือนเซรามิกสีดำ

ปี 2001

การเปิดตัวน้ำหอม COCO MADEMOISELLE

การเปิดตัวน้ำหอม Coco Mademoiselle ที่ได้รับการรังสรรค์โดย Jacques Polge ด้วยกลิ่นหอมสดชื่นที่นำน้ำหอมตระกูล Chypre กลับมารังสรรค์กับกลิ่นหอมอ่อนๆ สุดพิเศษของแพทชูลี Kate Moss คือเฟซของแคมเปญนี้

ปี 2002

การเข้าซื้อกิจการ MAISONS LESAGE และ MASSARO

Paraffection ได้เข้าซื้อกิจการรองเท้าของ Massaro และสตูดิโอเย็บปักถักร้อยของ Lesage ทำให้บริษัทถือรวม 3 สตูดิโองานหัตถศิลป์ (Desrues, Lemarié, Maison Michel) ไว้ภายใต้ความดูแลเดียว

ปี 2002

“SATELLITE LOVE” ครั้งแรกของคอลเลคชั่น MÉTIERS D'ART

Karl Lagerfeld เปิดตัวคอลเลคชั่น Chanel “Métier d’art” ซึ่งเป็นคอลเลคชั่นเรดี้ทูแวร์ ประจำปีที่ออกมาพร้อมปฏิทินคอลเลคชั่นอย่างเป็นทางการเพื่อยกย่องความเชี่ยวชาญของช่างฝีมือชั้นยอดเหล่านี้ คอลเลคชั่นชื่อ “Satellite Love” นำเสนอโดยนางแบบ 33 คนในห้องเสื้อโอต์ กูตูร์ของ CHANEL

ปี 2003

การรังสรรค์นาฬิกา J12 สีขาว

หลังจากที่นาฬิกา J12 ในตัวเรือนเซรามิกสีดำประสบความสำเร็จระดับนานาชาติ จึงได้มีการเปิดตัวนาฬิกา J12 ในรุ่นเซรามิกสีขาวขึ้น นาฬิกาเรือนใหม่แสนโดดเด่นนี้ได้สร้างปรากฏการณ์การนำสีขาวมาใช้ในการรังสรรค์นาฬิกา ในปีเดียวกันนั้นได้มีการปล่อยนาฬิการุ่นต่อมานั่นก็คือ นาฬิกา CHOCOLAT ด้วยกลไกแบบดิจิทัล, นาฬิกา CAMÉLIA และนาฬิกา 1932

ปี 2003

เป็นปีแรกของ CHANEL ในการเข้าร่วมงานแสดงนาฬิกาและเครื่องประดับอัญมณีระดับโลก BASELWORLD ในกรุงบาเซิล

เป็นปีแรกของ CHANEL ในการเข้าร่วม งานแสดงนาฬิกาและเครื่องประดับอัญมณี Baselworld World โดยบูธได้รับการออกแบบโดย Peter Marino

ปี 2004

แฟชั่นโชว์ MÉTIERS D'ART ครั้งแรกในต่างประเทศ

เป็นครั้งแรกที่ห้องเสื้อ CHANEL จัดแฟชั่นโชว์ Métiers d'Art ในต่างประเทศ โดยจัดขึ้นที่ร้านแฟล็กชิพสโตร์ของ CHANEL ในย่านกินซ่า โตเกียว

ปี 2004

การเปิดตัวน้ำหอม ALLURE HOMME SPORT

Jacques Polge รังสรรค์ Allure Homme Sport ขึ้นจากการตีความเสน่ห์ในแบบของสุภาพบุรุษขึ้นใหม่ ปลุกเร้าการเคลื่อนไหว อิสรภาพซึ่งสะท้อนถึงแฟชั่น และความหลงใหลในการเล่นกีฬาที่กาเบรียล ชาเนลได้ริเริ่มขึ้นสำหรับตัวเธอเอง ด้วยเทคโนโลยีใหม่ในการผลิต Jacques Helleu รังสรรค์ขวดทรงกว้างดีไซน์เรียบง่าย พร้อมเหลี่ยมมุมคมคายที่ด้านข้าง

ปี 2004

NICOLE KIDMAN เฟซของน้ำหอม N°5

Jacques Helleu เลือก Nicole Kidman ให้เป็นเฟซคนใหม่ของน้ำหอม N°5 แคมเปญและภาพยนตร์สร้างสรรค์โดยผู้กำกับ Baz Luhrmann

ปี 2005

แฟชั่นโชว์แรกที่ GRAND PALAIS

แฟชั่นโชว์เรดี้ทูแวร์ ประจำฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูร้อน 2006 ถูกจัดขึ้นที่ Grand Palais เรียกได้ว่าเป็นโชว์แรกของ CHANEL ซึ่งจัดขึ้นที่นั่น นับแต่นั้นโชว์คอลเลคชั่นอื่นๆ ก็ยังคงจัดแสดง ณ ที่แห่งนั้นเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

ปี 2005

นิทรรศการ CHANEL ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะ THE MET ในนครนิวยอร์ค

นิทรรศการ CHANEL จัดโดย Costume Institute แห่ง Metropolitan Museum of Art ในนิวยอร์ค ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคมถึง 7 สิงหาคม ปี 2005

ปี 2006

การเปิดตัว CRÈME SUBLIMAGE

การเปิดตัว Sublimage Crème Régénérante Fondamentale ครีมนี้มาพร้อมกับประสิทธิภาพในการต่อต้านริ้วรอยแห่งวัย ซึ่งได้รับการพัฒนาจากการวิจัยของ CHANEL เกี่ยวกับสรรพคุณของพืชพรรณ เช่นเดียวกับกระบวนการ polyfractionation ซึ่งช่วยกระตุ้นโมเลกุลที่ออกฤทธิ์ในดอกไม้ วานิลลา แพลนนิโฟเลียจากมาดากัสการ์คือดอกไม้ที่เป็นส่วนผสมในเนื้อครีม

ปี 2006

การเปิดตัวลิปสติก ROUGE ALLURE

ในปี 2006 CHANEL ได้เปิดตัวลิปสติกใหม่ที่มีสีสันเข้มข้นพร้อมดีไซน์ฝาเปิดสุดล้ำ เพียงแค่คลิกเดียวก็จะเผยให้เห็นเนื้อลิปสติกที่มีรอยประทับของ CHANEL

ปี 2007

KEIRA KNIGHTLEY เฟซของน้ำหอม COCO MADEMOISELLE

Keira Knightley กับการเป็นเฟซของน้ำหอม Coco Mademoiselle

ปี 2007

นิทรรศการ CULTURE CHANEL “L'ART COMME UNIVERS” (“ART AS UNIVERSE”) ที่พิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์พุชกินในมอสโก

จินตนาการและสร้างสรรค์โดย Jean-Louis Froment ผู้ดูแลนิทรรศการตั้งแต่ครั้งแรกในปี 2007 ที่มอสโก Culture CHANEL ได้พาสำรวจแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจสำหรับกาเบรียล ชาเนล ตลอดจนประวัติศาสตร์ของห้องเสื้อผ่านธีมที่หลากหลาย?นอกจากนั้นแต่ละส่วนของนิทรรศการนี้ยังได้พาผู้เข้าชมเดินทางไปเยือนหลายเมืองทั่วโลก โดยมีธีมดังต่อไปนี้: ปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้, กวางโจว (“Le Train Bleu” หรือ “The Blue Train”), ปารีส (“N°5”), กรุงโซล (“L’esprit des lieux” หรือ “The Spirit of the Place”), และเวนิส (“La femme qui lit” หรือ “The Woman Who Reads”)

ปี 2007

การจากไปของ JACQUES HELLEU

Jacques Helleu คือผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์และผู้บริหารด้านภาพลักษณ์สำหรับน้ำหอมและผลิตภัณฑ์ความงาม รวมถึงแผนกนาฬิกาและเครื่องประดับไฟน์ จิวเวลรี่ของแบรนด์ หนังโฆษณาสุดไอคอนิคภายใต้การกำกับดูแลของเขา คือผลลัพธ์จากการพูดคุยกับบรรดาผู้กำกับต่างๆ และผู้ที่เขาได้ให้อิสระทางการแสดงออก

ปี 2007

การเปิดตัวน้ำหอม LES EXCLUSIFS

สำหรับน้ำหอมไลน์ใหม่นี้ Jacques Polge ได้รังสรรค์น้ำหอมอันเปี่ยมด้วยอิสระเสรี โดยชื่อของมันอ้างอิงถึงสถานที่อันเป็นสัญลักษณ์แห่งการสร้างสรรค์ของกาเบรียล ชาเนลและแบรนด์ ได้แก่ 31 rue Cambon, Bel Respiro, 28 La Pausa, N°18, Coromandel, l’Eau de Cologne การรังสรรค์คอลเลคชั่นใหม่ประกอบด้วยน้ำหอมทั้งสี่แห่งปี 1983 ได้แก่ N°22, Gardénia, Bois des Îles และ Cuir de Russie ซึ่งมีวางจำหน่ายเฉพาะที่บูติค CHANEL เท่านั้น

ปี 2009

การเปิดตัวสตูดิโอเครื่องประดับไฟน์ จิวเวลรี่

การเปิดตัวของสตูดิโอเครื่องประดับไฟน์ จิวเวลรี่ภายใต้การควบคุมดูแลของ Patrice Leguéreau